“แม่ทัพภาค 4” เผย ใช้ “กองกำลังประจำถิ่น” ดูแลพื้นที่ชายแดนใต้
แทนกำลังทหาร 70% แล้ว ผบ.ทบ.เน้นสร้างความเข้มแข็งและเสริมด้วยวิทยุเครื่องแดงเป็นอุปกรณ์ สร้างเครือข่ายแหล่งข่าว ภาคประชาชน ชี้ใต้สงบ ร้านอาหาร โชว์รูมรถ ปั้มน้ำมัน สิ่งปลูกสร้าง เกิดมากขึ้นจะเห็นได้ว่า อ.สุไหงโก-ลก สถานการณ์ดีขึ้นและที่ อ. เบตง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
และที่กองทัพบก พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 รับมอบ วิทยุเครื่องแดง จำนวน 100 ชุด จาก ธนาคารกรุงเทพฯ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างเครือข่ายแหล่งข่าวภาคประชาชน ในพื้นที่ชายแดนใต้
พลโท ปืยวัฒน์ฯ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า เรามีวิทยุเครื่องแดงใช้แล้ว 700 – 800 เครื่อง เพื่อแจกจ่ายให้บรรดาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(อรบ.) กองกำลังประจำถิ่น เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร และทำหน้าที่เป็นแหล่งข่าวภาคประชาชน ในการแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ โดยจะต้องอบรมพี่น้องประชาชนให้ทำหน้าที่แหล่งข่าวด้วย โดยมีการกระจายข่าวที่รวดเร็ว เมื่อพบสิ่งผิดปกติ ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
ที่ผ่านมา มีการใช้วิทยุเครื่องแดงในกองกำลังประจำถิ่นที่. อ.เบตง จ.ยะลา ในการดูแลพื้นที่ และใช้ในงานกีฬาภายใน ทบ.ที่หาดใหญ่ ที่ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เพิ่งลงพื้นที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 2 วัน พักในพื้นที่และเน้น การฝึก และความพร้อม ความเข้มแข็งของกองกำลังประจำถิ่น ทั้ง อส.ชุดคุ้มครองตำบล อรบ. ชรบ. ที่ทดแทนทหาร ได้แล้วถึง 70%
แม่ทัพภาค 4 ยังกล่าวอีกว่า การจะดูว่าสถานการณ์ใต้ดีขึ้น หรือไม่ ต้องดูจาก ประชาชนมีความสุข มีการจับจ่ายใช้สอย ใช้ชีวิตประจำวันเป็นปกติ มีร้านอาหาร โชว์รูมรถ ปั้มน้ำมัน สิ่งปลูกสร้าง มากขึ้น
โดยเฉพาะที่สนามบินหาดใหญ่ จะมีนักท่องเที่ยวจาก 2 ล้าน เพิ่มมาเป็น 4 ล้านคน และ อ.เบตง จ.ยะลา โรงแรมเต็มตลอด เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวตลอด
สถานการณ์ที่ดีขึ้นจะไม่ดูจากเหตุเกิดมากน้อย เพราะการก่อเหตุอยู่ที่ความพร้อมของเขา แต่เมื่อเกิดเหตุ เราจับได้เร็ว เช่น เหตุระเบิด เอทีเอ็ม. 2 วันเราก็จับได้ เพราะเรามีแหล่งข่าวภาคประชาชน
ในส่วนของการดูแล อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พื้นที่ปลอดภัย นั้น พลโทปิยวัฒน์ ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแนวทางของคณะพูดคุยสันติสุข ในส่วนของผม ก็ทำหน้าที่ดูแล ทั้ง 14 จ.ภาคใต้ ให้ปลอดภัย ทั้งหมด
ส่วนที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นั้น สถานการณ์ดีขึ้น ไม่เกิดเหตุมานานเป็นปีแล้ว มีแค่เล็กๆน้อยๆ จึงไม่ใช้ พรก.ฉุกเฉิน แต่มาใช้ พรบ.ความมั่นคงแทน
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา