ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดกิจกรรม “Safety Thailand ในสถานศึกษากับเยาวชนสู่วัยแรงงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา” สร้างความตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัยก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
วันนี้ (20 ก.ค.61) ที่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานบ้านโพธิ์) จังหวัดฉะเชิงเทรา นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Safety Thailand ในสถานศึกษากับเยาวชนสู่วัยแรงงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา” โดยมีนายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวรายงาน และนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ นายจ้าง ลูกจ้าง ภาคีเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน กว่า 400 คน เข้าร่วมกิจกรรม
นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดหนึ่งที่เป็นระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(Eastern Economic Corridor EEC) ซึ่งจะต้องพัฒนาทั้งโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ กฎหมาย กฎระเบียบขั้นพื้นฐาน รวมถึงการพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับThailand4.0 และรองรับเทคโนโลยีต่างๆที่จะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่ต้องเริ่มสร้างความตระหนักและปลูกฝังตั้งแต่ระดับเด็ก นักเรียน จนถึงนักศึกษา เพื่อจะได้เป็นทรัพยากรแรงงานที่สำคัญของชาติโดยสถานศึกษาที่สามารถดำเนินการด้านความปลอดภัยจนเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานอื่นๆได้ ถือว่าเป็นการขับเคลื่อนตามระเบียบวาระแห่งชาติและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของประเทศไทย(Safety Thailand) ผ่านกลไกลประชารัฐ สู่การสร้างการรับรู้ให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยต่อไป
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยโดยประกาศนโยบาย”แรงงานปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี”เป็นระเบียบวาระแห่งชาติ ดังนั้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อนความปลอดภัยในสถานศึกษาในจังหวัด EEC ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากส่วนกลางกระทรวงแรงงานโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงได้จัดทำโครงการ “Safety Thailand ในสถานศึกษากับเยาวชนสู่แรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนรวมถึงภาคการศึกษามีความร่วมมือและรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษาและขับเคลื่อนตามนโยบาย”Safety Thailand” ของกระทรวงแรงงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงป้องกันในสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ด้านนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยกำหนดเป้าหมายหลักคือ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงป้องกันและวิสัยทัศน์อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์โดยใช้กลไกลสำคัญด้วยการสร้างความตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึงการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดภาวะเสี่ยงภัยอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต จิตใจ และสภาพแวดล้อมการทำงาน ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัยไว้ก่อน” โดยเตรียมความพร้อมตั้งแต่วัยเยาว์ ไปจนถึงนักเรียน/นักศึกษาในสถานศึกษา เพื่อสร้างให้มีความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัยฯ ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพเชิงเทคนิควิชาการในการประกอบอาชีพอย่างสมดุล และมีประสิทธิภาพต่อไป