กองกำลังผสม ตำรวจ ทหาร ปกครอง บุกตรวจสอบโรงรับจำนำแห่งหนึ่งติดเทือกเขาภูพาน ในเขตอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ นำหมายศาลตรวจสอบเอกสารรับจำนำถูกร้องเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ผงะคลังแสงปืนหลายกระบอกอ้างรับจำนำ ทั้งหมดถูกอายัดตรวจสอบมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทพร้อมดำเนินคดีสูงสุด
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมลับ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์,พ.ต.อ.อำพร สายมณี ผกก.สวบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมตรวจสอบของกลางเอกสารหลักฐาน การทำบัญชี โฉนดที่ดิน อาวุธปืนหลายชนิดรวม 16 กระบอก ซึ่งยึดมาได้จากโรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 5 ตำบลสมเด็จอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
ตามหมายตรวจค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ 347/2561 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ซึ่งถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าปล่อยเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราสูงกว่ากฎหมายกำหนดและยังทำการรับจำนำอาวุธปืนผิดกฎหมาย
การตรวจค้นตามหมายครั้งนี้มีรายงานว่า เกิดขึ้นในช่วงเช้าหลังจากที่โรงรับจำนำแห่งนี้เปิดบริการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กำลังทหารจากกองพลทหารม้าที่ 3 จังหวัดขอนแก่น ในฐานะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ และฝ่ายปกครองอำเภอสมเด็จ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบ ปรากฏมี นายวีรศรุต สุวรรณชัยรบ อายุ 35 ปี หมู่ที่ 5 ตำบลสมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ อ้างเป็นเจ้าของกิจการ
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งเรื่องตรวจสอบปรากฏมีเอกสารโฉนดที่ดินที่ประชาชนนำมาจำนองกว่า 1 พันราย นอกจากนี้การตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังไปพบอาวุธปืนสั้นและยาว ถึง 16 กระบอก จึงได้แจ้งขอยึดเอกสารมาทำการตรวจสอบเบื้องต้นอ้างว่าอาวุธปืนที่พบหลายกระบอกเป็นการรับจำนำจากประชาชนทั่วไป จึงได้เชิญตัว นายวีรศรุตฯ มาสอบปากคำเพิ่มเติม
พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจยึดครั้งนี้เกิดขึ้นจากปัญหาการร้องเรียนของประชาชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปล่อยเงินกู้ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 4 ได้สั่งการให้ดำเนินการปราบปรามอย่างเฉียบขาด เบื้องต้นตำรวจได้ทำการตรวจยึดเอกสารการทำบัญชี โฉนดที่ดิน ที่ได้รับรายงานว่ามีผู้เข้ามากู้เงินมากกว่า 1 พันราย อีกทั้งตำรวจยังได้ตรวจยึดปืนได้ถึง 16 กระบอก เบื้องต้นทรัพย์ที่ทำการตรวจสอบสัญญารวมมีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำมาตรวจสอบหากพบว่าเรื่องใดผิดกฏหมายก็จะทำการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
“สำหรับแนวทางนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธร ภาค 4 ให้ปราบปรามนายทุนที่มีพฤติกรรมที่เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และการไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบรวมถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาที่เป็นโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำประกอบกับได้รับข้อมูลร้องเรียนจากประชาชนว่ามีนายทุนซึ่งปล่อยเงินให้ประชาชนทั่วไปกู้เงินพร้อมคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง และผู้กู้นำอสังหาริมทรัพย์มาทำการจำนองขายฝากแล้วบ่ายเบี่ยงอาศัยความไม่รู้ข้อกฎหมายของประชาชนไม่ยอมให้มีการไถ่ถอนได้ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนเพื่อทราบถึงบุคคลดั่งกล่าว รวมถึงวิธีการที่นายทุนดำเนินการต่อไป ดังนั้นสำหรับประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถมาร้องเรียนได้ ยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงิน ที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์” ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวในที่สุด
/ณัฐพงษ์ ประชากุล จ.กาฬสินธุ์