“บิ๊กบัง” เบอร์เกอร์เนื้อแพะ จ้าวแรกและจ้าวเดียวเมนูใหม่ที่กำลังนิยมใน จ.กระบี่ เผยต่อยอดจากการเลี้ยงแพะ หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม
“แพะ”เป็นสัตว์เลี้ยง ที่กำลังได้รับความนิยม นำมาเลี้ยงเพื่อการค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งขายแบบเป็นตัว และชำแหละเนื้อขายเป็นกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 180-200 บาท บางช่วงแพะมีราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ ต้องคิดหาวิธีเพิ่มมูลค่า ด้วยการแปรรูปเนื้อแพะ เหมือนอย่างนายนายคุณาสิณ บุญเทพ หรือบังริน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 6 ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งนอกจากยึดอาชีพทำฟาร์มแพะ เลี้ยงขายเป็นตัวแล้ว ก็ยังนำเนื้อแพะที่ชำแหละ มาทำเป็นเบอร์เกอร์ เนื้อแพะ ซึ่งเป็นจ้าวแรกและจ้าวเดียว ใน จ.กระบี่ เพื่อเพิ่มมูลค่าแพะ ให้เพิ่มสูงขึ้น ภายใต้ชื่อ “บิ๊กบัง เบอร์เกอร์แพะ”
นายคุณาสิณ หรือบังริน กล่าวว่า เดิมตนมีอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน และได้หันมาเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม ประกอบกับเคยเป็นพ่อครัวร้านอาหารที่กรุงเทพฯ ต่อมากลับมาอยู่บ้าน โดยแรกเริ่มมาใช้พื้นที่ที่บ้านทำฟาร์มเลี้ยงแพะ ประมาณปีเศษ ปัจจุบันมีแพะอยู่ในฟาร์มของตนเอง 70 ตัว ต่อมาได้ปรึกษากับกลุ่มผู้เลี้ยงแพะในหมู่บ้านเดียวกัน ว่าจะนำเนื้อแพะมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า
จึงนำความรู้ในการทำอาหารโดยการคิดค้นสูตรการทำเบอร์เกอร์เนื้อแพะขึ้น เพราะก่อนนี้ก็เคยทำเบอร์เกอร์เนื้อวัว เนื้อไก่ มาก่อน ทำการคิดค้นสูตรทั้งสูตรหมักเนื้อ และสูตรน้ำซอส เป็นของตนเองโดยเฉพาะ โดยช่วงแรกที่เริ่มขาย ก็ยังขายไม่ค่อยได้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ชอบกินเนื้อแพะ แต่พอขายไปสักระยะ ลูกค้าได้ลองชิมกินก็เริ่มติดใจ และมีการบอกต่อเริ่มขายดีมาเรื่อยๆ โดยตนเองยังไม่มีหน้าร้าน จึงอาศัยเวลามีงานแสดงต่างๆก็ไปเปิดบูธขาย
จนต่อมาได้รับการสนับสนุนทุนจาก SME จึงได้ไปออกบูธขายบ่อยครั้งขึ้น จนเริ่มเป็นที่รู้จัก และคิดแบนด์เป็นของตนเอง คือ “บิ๊กบัง เบอร์เกอร์” โดยมีนางนิตยา หลีจิ อายุ 39 ปี ภรรยา ช่วยขาย กำลังได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ได้ลองชิม ซึ่งเมนูเบอร์เกอร์เนื้อแพะ เป็นเมนูใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็น 1 ใน 20 สิ่งห้ามพลาดของ อ.คลองท่อม โดยถูกคัดเลือกจากมูลนิธิเพื่อสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ เพราะเป็นเมนูที่คิดค้นสูตรการหมักเนื้อ และการทำซอส เป็นสูตรเฉพาะของบิ๊กบัง เบอร์เกอร์เท่านั้น
บังริน เล่าต่อว่า จากที่ได้ออกบูธขายตามงานต่างๆในราคาชิ้นละ 79 บาท ปรากฎว่ายอดขายเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 2,000-3,000 บาท บางวันขายดียอดก็จะอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท ทำให้แพะที่เลี้ยงไว้เอง เริ่มไม่พอ จึงประสานกับกลุ่มเลี้ยงแพะในชุมชน ซื้อแพะมาทำเบอรเกอร์ขาย ทำให้ชุมชนได้มีรายได้จากการขายเนื้อแพะด้วย โดยในอนาคตวางแผนจะเปิดจุดจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้าน เช่น สระมรกต น้ำตกร้อนเค็ม บ่อน้ำพุร้อน และอาจจะขยายไปพื้นที่อื่นด้วย แต่ปัจจุบันยังคงใช้วิธีตระเวนขายตามงานแสดงต่างๆ ไปก่อน แต่หากใครสนใจจะติดต่อเพื่อนำไปใช้ในงานจัดเลี้ยงต่างๆ ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 092-2922083 ซึ่งเป็นเบอร์ติดต่อของตนโดยตรง
กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน