ตำรวจกองปราบปรามรวบสาวแสบ ปลอมโปรไฟล์ ไลน์ รองอัยการสูงสุด หลอกเหยื่อ เรียกรับเงินวิ่งเต้นหลุดคดียาเสพติด
ภายหลังทำพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ ผู้บังคับการปราบปราม จาก พล.ต.ต . ไมตรี ฉิมเฉิด ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ. จิรภพ ภูริเดช รรท ผบก .ป กล่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกองกำกับการ 4 และกองกำกับการ 5 ซึ่งไปจับกุมนางวรรณวรางค์ หรือแววใจทองมอายุ 46 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2286 / 2561 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2561ในข้อหาร่วมกันนำ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง
คดีนี้สืบเนื่องมาจากนางสมสุข มีวุฒิสม รองอัยการสูงสุดได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกับการห้ากองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่นำภาพของตนไปตัดต่อใส่ในโปรไฟล์แอพพลิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อว่า รองสมสุข สนทนากับบุคคลอื่นในลักษณะเรียกรับเงิน ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหาย
พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดย ผู้ต้องหาซื้อซิมโทรศัพท์แล้วปลอมเป็นบุคคลที่ชื่อว่า นางหมวยหรือนางชนิดาแซ่ตั้ง ทำทีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาขอซื้อบ้านกับนางศรีพรรณ ผู้เสียหาย และแจ้งว่าตนเองมีโรงสีข้าวแต่ติดคดีจำนำข้าวจึงถูกอายัดทรัพย์สินไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ได้มีความจำเป็นเดือดร้อนจึงขอยืมเงินจากผู้เสียหายซึ่งผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์บัญชีนางวรรวรางค์ โดยโอนไปหลายครั้ง
ต่อมาผู้ต้องหาได้หลอกผู้เสียหายว่านางชนิดาหรือหมวยเสียชีวิตและได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับผู้เสียหายโดยผู้ต้องหาได้ทำการปลอกแอพพลิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อและภาพถ่ายของอัยการชาติชาย อ่อนจันทร์ ติดต่อมาหาผู้เสียหายว่าเป็นอัยการรับผิดชอบทำคดีพินัยกรรมซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้นางศรีพันโอนเงินผ่านเข้าบัญชีนางวรรณวรางค์ผู้ต้องหาผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้หลายครั้ง
จนเมื่อต้นปี 2561 บุตรชายของผู้เสียหายต้องคดียาเสพติดผู้เสียหายจึงขอคำแนะนำทางคดีจาก LINE ของอัยการชาติชายซึ่งก็ได้แนะนำให้ผู้เสียหายรู้จักกับทนายสองคนชื่อ ปรีชา และ พงษ์ ซึ่ง ไลน์ ทั้ง 2 นางวรรณวรางค์ทำการปลอมทั้งหมด เมื่อมีการพูดผ่านทางโทรศัพท์ทนายทั้งสองก็ให้ความช่วยเหลือโดยมีค่าใช้จ่ายซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนให้ไปอีก
ต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคมรายที่ใช้ชื่อว่าอัยการชาติชายซึ่งเป็นรายที่นางวันนารามทำการปลอมได้ติดต่อกับผู้เสียหายว่ามีอัยการท่านอื่นเข้ามารับผิดชอบคดีมรดกแทนชื่อว่า รองสมสุข ซึ่งผู้ต้องหาตัดต่อรูปโปรไฟล์ LINE ของเราสมสุขขึ้นมาเช่นกันโดยแจ้งให้ผู้เสียหายจ่ายค่าคดีเพิ่มโดยง่ายโดยโอนเงินผ่านบัญชีนางวรรณวรางค์ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อโอนเงินไปให้รูปทั้งหมดประมาณ 262,915 บาท
ภายหลังผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงปรึกษากับเพื่อนเกรงว่าจะถูกหลอกจึงได้ก๊อปปี้บทสนทนา ไลน์ กับ รองสมสุขและอัยการชาติชายสอบถามผ่านทาง Facebook ของสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรีทำให้นางสมสุขรองอธิบดีอัยการสูงสุดทราบว่าถูกนำภาพถ่ายไปตัดต่อในแอพพลิเคชั่น ไลน์หรอกเรียกรับเงินจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเบื้องต้นรับสารภาพว่าได้ทำการปลอมแอพพลิเคชั่นไลน์จริง เพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายให้ได้ไหมครับ เพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหาย
จากการเข้าจับกุมและตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 110 หมู่สามตำบลป่าสักอำเภอเมืองลำพูนจังหวัดลำพูนซึ่งเป็นบ้านของนางวรรณวรางค์พบโทรศัพท์มือถือสี่เครื่องสมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์หนึ่งเล่มและสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยอีกสามเล่มซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ
