การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ถือเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นโดยตรง และเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (มีคลิป)

 

การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ถือเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นโดยตรง และเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 60 นางสาวชัย พรดวงแก้ว มัคคุเทศก์ เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดพังงา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน และยุโรป ให้ความสนใจ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน โดยตรง ซึ่งทางบริษัทนำเที่ยวจะนำนักท่องเที่ยวไปชม และซื้อสินค้าในตลาดสด ชิมอาหารคาวหวานท้องถิ่น ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ที่ออกมารับบิณบาตรในยามเช้า
ก่อนที่จะรับประทานอาหารเช้าของท้องถิ่น จากนั้นก็จะเดินทางไปเยี่ยมชมอาคารบ้านเรือน และวัดวาอารามต่างๆ ที่ได้รวบรวมวัฒนธรรมความเชื่ออันเก่าแก่ โดยเฉพาะเมืองเก่าตะกั่วป่า ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สถานที่ใดๆ


นายพิสิษฐ์ เส็งกิ่ง นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในท้องถิ่น ชมประเพณีวัฒนธรรม ศิลปกรรมอันเก่าแก่ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาแต่โบราณ เป็นการนำเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ไม่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เหมือนการท่องเที่ยวแบบอื่น และสามารถสร้างรายได้แก่ชุมชนอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าของชุมชนได้จากผู้ผลิตโดยตรง สร้างความซาบซึ้งด้านความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเมืองเก่าตะกั่วป่า มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน กว่า 1,300 ปี

นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา/083-6388373

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก หนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์   http://www.siamfocustimenews.com/

Related posts