สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยร่วม(วว.)ร่วมกับจังหวัดสระบุรี จัดฝึกอบรมสร้างความรู้แก้ไขปัญหาการจัดการขยะและมลพิษจากขยะ (มีคลิป)

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยร่วม(วว.)ร่วมกับจังหวัดสระบุรี จัดฝึกอบรมสร้างความรู้แก้ไขปัญหาการจัดการขยะและมลพิษจากขยะ

วันนี้(8 พ.ค.2560) เวลา 10.00 น.ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการอบรมเพื่อแก้ไขปัญหาขยะการจัดการขยะและมลพิษจากขยะ ระดับกลางน้ำ ภายใต้โครงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน โดยมีนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวต้อนรับ และมีส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคเอกชน เข้าร่วมกิจกรรม
ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

จากความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และจังหวัดสระบุรี ที่มุ่งสร้างต้นแบบการคัดแยกขยะชุมชน ขับเคลื่อนนโยบายโครงการจังหวัดสะอาดรัฐบาล หวังแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม/ขยะพลาสติกในชุมชน ด้วยผลงานวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ดังนั้นเพื่อให้โครงการฯ ดำเนินงานตามเป้าหมายที่กำหนดสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย จึงได้จัดการฝึกอบรมเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการขยะและมลพิษจากขยะ โดยเริ่มจากการอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่กลุ่มเป้าหมายในระดับกลางน้ำ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดการขยะจากที่ต้นทาง ทั้งวิธีการคัดแยก การนำกลับมาใช้ใหม่ การเพิ่มมูลค่า การจัดทำธนาคารขยะ วิธีการจัดเก็บขยะประเภทต่างๆ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี

และสร้างความตระหนักให้เห็นคุณค่าต่อการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยมีหัวข้อการอบรม ได้แก่ ประเภทของขยะชุมชนและการคัดแยกขยะ โดยหลักการ 3Rs การคัดแยกพลาสติกเพื่อเพิ่มมูลค่า การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การทำถ่านหอม และเปลือกไข่ไล่ยุงและแมลง การจัดทำธนาคารขยะ การประกวดงานหัตถกรรมมูลค่าเพิ่มจากขยะ ทั้งนี้กิจกรรมการฝึกอบรมในครั้งนี้ได้มีการคัดเลือกหมู่บ้านต้นแบบสีเขียว และนำผู้เข้าอบรมเดินทางไปศึกษาดูงานที่ชุมชนต้นแบบในจังหวัดพิษณุโลก หลังจากจบการอบรมจะมีการตรวจติดตามและประเมินผล เพื่อให้การฝึกอบรมมีความยั่งยืน และเกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาล