แม่ทัพภาคที่ 4 ประชุมร่วมกับผู้นำศาสนา 8 องค์กรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หาทางออกกรณีการใช้ศาสนสถานในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ การประชุมมีขึ้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ค.60 โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และผู้แทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
สำหรับผู้นำศาสนา 8 องค์กร ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา, สภาอูลามาอฺฟาฏอนีย์ดารุสลาม, สมาคมสถาบันปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้, สมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมมุสลิมภราดรภาพ วัตถุประสงค์ของการประชุมเพื่อชี้แจงแผนปฏิบัติงานในช่วงเดือนรอมฎอน และการจัดกิจกรรม “รวมพลัง สร้างสันติสุข” เนื่องในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) 1438 โดยในที่ประชุมแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนา ให้ช่วยกันหาทางออกร่วมกัน หลังจากเกิดกรณีกลุ่มคนร้ายใช้ศาสนสถาน ในการก่อเหตุรุนแรง และยังใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของคนร้าย โดยเฉพาะกรณีคาร์บอมบ์บิ๊กซี พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมากว่า 13 ปี มีสาเหตุหลักมาจากความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่มีเจตนาบิดเบือนหลักคำสอนทางศาสนาและความเป็นมาของประวัติศาสตร์มาปลุกระดมบ่มเพาะให้ใช้ความรุนแรงแบบสุดโต่งเพื่อทำลายสังคมพหุวัฒนธรรม ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรทางศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำศาสนาก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ ได้โดยตลอด
แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีการใช้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาอิสลามเป็นสถานที่ในการก่อเหตุและสนับสนุนการก่อเหตุ โดยมีผู้นำศาสนาบางคนเข้ามามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนาช่วยกันเสนอแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อไป สำหรับเดือนรอมฎอนในปีนี้ ต้องการให้พี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามได้ประกอบศาสนกิจตามความศรัทธา โดยเน้นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนได้ประกอบศาสนกิจโดยไม่มีสิ่งรบกวน แต่จากสถิติเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาพบว่าผู้ก่อเหตุพยายามบิดเบือนหลักคำสอนว่าการก่อเหตุในเดือนรอมฎอนจะยิ่งได้ผลบุญเป็นทวีคูณ จึงขอความร่วมมือผู้นำศาสนาช่วยกันสร้างความเข้าใจในหลักคำสอนที่ถูกต้อง และสิ่งที่มุสลิมควรปฏิบัติเพื่อให้เดือนรอมฎอนปีนี้เป็นเดือนรอมฎอนอันประเสริฐและบริสุทธิ์ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ภายหลังการประชุม แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้นำศาสนา 8 องค์กรได้ร่วมกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ในการทำให้เดือนรอมฎอนในปีนี้เป็นรอมฎอนแห่งสันติสุขด้วย
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก หนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์ http://www.siamfocustimenews.com