ชาวบ้านกว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด คัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมือนแร่ทองแดงในพื้นที่ป่าต้นน้ำ

เมื่อ 17 ก.ค.2560 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดอุตรดิตถ์ ชาวบ้านจาก ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด
จ.อุตรดิตถ์ จำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขอยื่นหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองแดง หลังอุตสาหกรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ติดประกาศมีผู้ประกอบการยื่นคำขอทำเหมืองแร่ที่บ้านห้วยเนียม ม.5 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด กว่า 124 ไร่ โดยชาวบ้านได้ชูป้ายผ้าที่มีข้อความคัดค้านการทำเหมืองแร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส. ดูแลเรื่องความปลอดภัย และให้ชุมนุมอย่างสงบ โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากอุตสาหกรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มารับทราบปัญหา พร้อมรับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน

นายวิทูร มะลิวงษ์ ตัวแทนชาวบ้านห้วยเนียม กล่าวว่า ชาวบ้าน ต.น้ำไผ่ พร้อมใจเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตรเหมืองแร่บ้านห้วยเนียม หลังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ได้มีประกาศว่า บริษัท นำโชค ไมนิ่ง จำกัด ได้ยื่นคำขอประทานบัตรการทำเหมืองแร่ทองแดง เนื้อที่ 124 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา ในพื้นที่ป่า สปก. และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำคลองตรอน จะส่งผลกระทบต่อที่ดินทำกินของชาวบ้าน และเกิดมลพิษในพื้นที่ ซึ่งจะมีประชาชนได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 400 ครัวเรือน เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องจึงรวบรวมเอกสาร ทำหนังสือคัดค้าน ไม่ต้องการให้เกิดธุรกิจดังกล่าวในพื้นที่ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมามีความพยายามของนายทุน ยื่นมาครั้งหนึ่ง ขอเข้าประทานบัตรนานถึง 25 ปี ซึ่งชาวบ้านไม่เคยเห็นชอบ ไม่ผ่านประชาคม ไม่ผ่านประชุมสภา อบต.น้ำไผ่ เพราะไม่ต้องการให้มีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ จึงรวมตัวยื่นหนังสือคัดค้าน

ด้าน นางสาวภารดี กระจ่างยุทธ หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน รักษาราชการแทนอุตสาหกรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า การออกประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นไปตามขั้นตอนทางราชการ เมื่อมีบริษัทยื่นขออนุญาตก็ต้องรับเรื่องและดำเนินการไปตามระเบียบ ไม่เช่นนั้นก็จะมีความผิด โดยยังต้องผ่านขั้นตอนอีกมาก และหากชาวบ้านคัดค้าน ก็สามารถแจ้งเรื่องกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ได้
นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ขอให้ติดประกาศเรื่องการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ดังกล่าวให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน และมีการทำประชาคม ซึ่งผลเป็นอย่างไร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ก็จะสรุปไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งกว่าเรื่องจะมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ทั้งการขออนุญาตใช้ที่ดินจาก สปก. การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหากขั้นตอนใดไม่ผ่านก็ถือว่าไม่สมบูรณ์ โดยยืนยันว่า ราชการจะดูแลอย่างตรงไปตรงมาด้วยความโปร่งใส ส่วนข้อกังวลเรื่องการแทรกแซงหรือกดดันในการทำประชาคมนั้น จะมอบหมายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น