รวบขบวนการยานรก ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด ไอซ์ 11 กิโล มูลค่านับ 1,000 ล้านบาท(ชมคลิปคลิกเลย)

<<<เชียงราย>>>
รวบขบวนการยานรก ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด ไอซ์ 11 กิโล มูลค่านับ 1,000 ล้านบาท

เวลา 14.00 น. วันนี้ (27 ก.ค.60) ที่บริเวณลานฝึกภักดีภูมิ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีธนยินทร์ เทพรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พันตำรวจเอกวิรัช สุมนาพันธ์ พันตำรวจเอกนพดล กรึงไกร รองผู้บังคับการ ฯ พันเอกจรัส ปัญญาดี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พันเอกกิดากร จันทรา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 พร้อมทั้งได้นำของกลางเป็นยาบ้า 3,014,000 เม็ด ยาไอซ์ 11 กิโลกรัม รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า 1 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง และเงินสดจำนวน 17,510 บาท มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก

พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ แถลงว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพภาคที่ 3 และตำรวจภูธรภาค 5 ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามพื้นที่แนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ และอยู่ในช่วงแผนการกวาดล้างยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ได้บูรณาการกับทุกภาคส่วน ตลอดถึงการหาข่าว และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด จนสามารถจับกุมขบวนการผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่พร้อมของกลางหลายรายการ ดังนี้

รายที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สรวย รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนยาเสพติดผ่านมาทางด่านตรวจท่าก๊อ จึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จนกระทั่งเวลา 05.00 น.วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 มีนายไอ่ทวย วนาชื่นสกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 13 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และ นายอาเจอ มาเยอะ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 96/พ หมู่ 17 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมา มุ่งหน้าไปทาง อำเภอเวียงป่าเป้า เมื่อเห็นนายอาเจอ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น นายไอทวย จึงเลี้ยวรถกลับทันที แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตุเห็นจึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปจนทัน เมื่อตรวจค้น พบของกลางยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงจำนวน 60,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม สอบสวนทั้งสองให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้รับจ้างชาวพม่าไม่ทราบชื่อ ให้นำยาเสพติดไปส่งที่อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 40,000 บาท โดยให้นายไอ่ทวย เป็นผู้ขับรถนำดูเส้นทางล่วงหน้าเพื่อความสะดวก ในการขน แต่มาถูกตำรวจจับได้เสียก่อน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนฯ ดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 2 จับกุมได้ในเขตพื้นที่ สภ.แม่จัน มีจำนวน 2 คดี โดยคดีที่ 1 ร้อยตำรวจโทอนุดิษฐ์ ผัดผ่อง รอง สวป.สภ.แม่จัน ขณะเข้าเวร 20 ได้นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณบ้านกิ่วพร้าว หมู่ที่ 4 ตำบลจันจว้าใต้ เวลาประมาณ 23.00 น. ได้มีรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 775 วิ่งมาจากทางอำเภอดอยหลวง มุ่งหน้าออกมาทางอำเภอแม่จัน ก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 30 เมตร รถยนต์คันดังกล่าวได้เบรคกระทันหัน แล้วถอยหลังเพื่อเตรียมหลบหนี จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนรถยนต์คันดังกล่าวได้ถอยชนป้ายข้างทาง พบชายสามคนเปิดประตูวิ่งหลบหนี ใช้ความมืดเป็นเกราะกำบังตัววิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทางอย่างรวดเร็ว จึงประสานส่วนที่เกี่ยวข้องปิดล้อมบริเวณที่คนร้ายหลบหนีเข้าไปคุมสถานการณ์ไว้จนถึงรุ่งเช้า จากนั้นได้ตรวจค้นรถยนต์ คันดังกล่าว พบยาบ้าในกระบะบรรทุกด้านหลังรถจำนวน 2,214,000 เม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จนกระทั่งเวลา 07.00 น. วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่พบตัวนายธงชัย แซ่เฮ้อ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 6 ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน แอบซ่อนตัวอยู่ในป่าดังกล่าว จึงนำตัวออกมาสอบสวนเบื้องต้นรับว่า ได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีไปรับจ้างขนยาเสพติดเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ไม่รอดถูกจับกุมได้เสียก่อน จึงนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขยายผล และดำเนินคดีต่อไป

ส่วนคดีที่ 2 ของ สภ.แม่จัน เมื่อเวลา 03.30 ขณะที่ชุดปฏิบัติการ จุดตรวจร่วม ระหว่าง สภ.แม่จัน,ทหารพราน และ ตำรวจ ต.ช.ด. ได้ปฎิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ณ ด่านกิ่วทัพยั้ง พบนายปิติ นะดี ขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ษย 2861 มุ่งหน้าไปทางอำเภอเมืองเชียงราย ลักษณะมีอาการพิรุธ จึงตรวจสอบโดยละเอียด พบยาบ้าบรรจุในกระสอบฟาง รวมยาบ้าจำนวน 740,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรถเก๋งคันดังกล่าว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ขยายผลและดำเนินคดีต่อไป

พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า นับวันขบวนการค้ายาเสพติดมีวิธีที่หลากหลาย ในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ และยังมีคนที่กล้าเสี่ยงขนคราวละมากๆ ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นยาเสพติดล็อตใหญ่ หากเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จะมีมูลค่ามหาศาลนับ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ดำเนินมาตรการเพื่อสกัดกั้นตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดต่อไปอย่างเข้มข้น