การใช้สื่อสารสนเทศเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพัฒนาจิตใจผู้ต้องขัง

“การใช้สื่อสารสนเทศเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพัฒนาจิตใจผู้ต้องขัง”

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00 น. นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมรับฟังการบรรยายให้ความรู้ตามโครงการสื่อสารสนเทศเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังโดยการนำสื่อสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ณ เรือนจำพิเศษธนบุรี นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เป็นองค์กรหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุม แก้ไขฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

โดยการจัดกิจกรรมนันทนาการ สันทนาการ ออกกำลังกาย กีฬา ดนตรี ศิลปะ รวมทั้งการนำหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมสัมพุทธเจ้า คติธรรม การปฏิบัติบำเพ็ญศีล กิจกรรม และการปฎิบัติธรรมของศาสนาอื่นๆ มาช่วยในการอบรมผู้ต้องขัง เพื่อพัฒนาตนเองให้ดำรงอยู่อย่างมีสติ สามารถกลับตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำภายหลังพ้นโทษ นายกิตติพัฒน์ฯ กล่าวต่อไปว่า กรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดโครงการสื่อสารสนเทศเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพัฒนาจิตใจผู้ต้องขัง โดยการนำสื่อสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ เช่น ซีดี ดีวีดี ฯลฯ บรรยายหลักคำสอนของศาสนา หรือข้อคิดที่ดีเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตจากนักพูดสาขาต่างๆ ที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อคิดที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งสื่อสารสนเทศที่จะนำมาเป็นเครื่องมือในกระบวนการแก้ไข ฟื้นฟู และพัฒนาสมรรถภาพร่างกายและจิตใจของผู้ต้องขังนั้น จะสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตประจำวันระหว่างต้องโทษ

ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม มีสติตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ มีหิริโอตตัปปะ สร้างแรงบันดาลใจ สุขภาวะที่ดีอึกทั้งเป็นการเปิดโลกทัศน์ และมุมมองที่หลากหลายผ่านความบันเทิงที่มีสาระความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีของครอบครัวและสังคมภายหลังพ้นโทษ ซึ่งในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้เชิญผู้บริหารชั้นนำระดับประเทศ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร (CEO) บริษัท อมตะคอร์ปอเรชัน จำกัด มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแนวคิดให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษธนบุรี เพื่อสร้างข้อคิดที่ดีมีประโยชน์ พร้อมทำการบันทึกภาพวิดิทัศน์การบรรยายดังกล่าว เพื่อนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อสารสนเทศให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ทั่วประเทศ 142 แห่ง ได้รับชมวีดิทัศน์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการนำร่องโครงการและให้ความรู้ในด้านต่างๆ แก่ผู้ต้องขังได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป