พิจิตร9101จบโครงการแล้ว แต่ขั้นตอนการสอบทุจริตยังคงเดินหน้าสอบสวนล่าสุดชาวบ้านหวั่นผิดกฎหมายรู้เห็นร่วมโกงคืนเงินค่าแรง (ชมคลิปคลิกเลย)

พิจิตร9101จบโครงการแล้ว แต่ขั้นตอนการสอบทุจริตยังคงเดินหน้าสอบสวนล่าสุดชาวบ้านหวั่นผิดกฎหมายรู้เห็นร่วมโกงคืนเงินค่าแรง

วันที่ 1 ก.ย. 2560 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยจากกรณีที่มีชาวบ้านจากหมู่ 10 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยชี้เบาะแสการทุจริตโครงการ 9101 ของหมู่ 10 บ้านหนองหนู ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร โดยชี้เหตุว่า ในหมู่บ้านได้รับเงินสนับสนุนให้ทำโครงการ 9101 ตกลงกันว่าจะปลูกดอกดาวเรืองเพื่อจะนำไปใช้ประดับสถานที่ในพิธีถวายดอกไม้จันทร์ในวันพระราชทานเพลิงศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้นำชุมชนประกาศรับสมัครชาวบ้านจำนวน 31 คน มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่บอกเพิ่มเติมอีกว่าขอฝากอีก 11 คน ทำงานร่วมด้วยแต่กลุ่มนี้ไม่ได้มีบัญชีเงินฝาก ธกส. ดังนั้นหากได้เงินมาขอให้เฉลี่ยกัน จากนั้นผู้นำก็ขอเก็บสมุดบัญชี ธกส.ที่จะมีเงินโอนเข้าในอนาคต

เมื่อถึงวันนัดหมาย ชาวบ้านทั้งหมด 31+11= 42 คน มาทำงานกันจริงจังได้เพียง3-4วัน ผู้นำชุมชนก็บอกให้หยุด อ้างวัสดุดินปลูกและอุปกรณ์ไม่พร้อมและให้ลงชื่อทำงานกันให้ครบ 15 วัน จากนั้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2560 มีเงินโอนเข้าบัญชี 1,830 บาท วันที่ 17 ส.ค. 2560 มีเงินโอนเข้าบัญชี 2,475 บาท รวมได้รับเงินโอนทั้งสิ้น 4,575 บาท จากนั้นผู้นำชุมชน 2 คน ก็โทรศัพท์มาตามให้ไปถอนเงินที่ ธกส. โดยเดินตามคุมทุกระยะในขณะไปถอนเงิน เมื่อชาวบ้านได้รับเงินจากธนาคารผู้นำชุมชนก็มาคว้าเงินในมือเอาไป แล้วให้เงินชาวบ้านเพียงแค่คนละ 600 บาท โดยบอกว่าทำงานจริงแค่ 3-4 วัน ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งพวกตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวง จึงได้มาร้องทุกข์ชี้เบาะแสขอให้ศูนย์ดำรงธรรมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ นั้น นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการให้ดำเนินการสอบสวนให้ครบทุกด้านทั้งฝ่ายผู้ร้องและฝ่ายถูกร้องเรียนรวมถึงเจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจและหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าว

โดยขอยืนยันว่าจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดหรือทุจริตไม่ว่าเป็นโครงการใดๆก็ตาม โดยได้สั่งการไปว่าต้องสอบสวนให้ละเอียดเพราะหากจะให้ผู้ว่าฯลงโทษผู้ใดต้องคำนึงด้วยว่ามีความผิดชัดเจน เพราะทุกวันนี้มีศาลปกครองจะออกคำสั่งอะไรต้องแม่นด้วยระเบียบและข้อเท็จจริงลงโทษไปแล้วต้องให้ดิ้นไม่หลุด โดยได้ยกหลักธรรมะ “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
นายพัฒนา ล้อมวงษ์โสภณ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมเป็นหน่วยรับเรื่องร้องเรียนภายใต้การอำนวยการของผู้ว่าฯพิจิตร ซึ่งตั้งแต่วันที่ได้รับเรื่องดังกล่าวก็พิจารณาว่า คำร้องเรียนการทุจริตโครงการ9101เป็นเรื่องเร่งด่วน จึงได้สั่งการให้ท้องที่ คือ อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งมี นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี นายอำเภอเมืองพิจิตร และ นายสมพร เจียรประวัติ เกษตรจังหวัดพิจิตร ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยขอให้รายงานผลภายในวันที่ 13 ก.ย. 2560 ทั้งนี้เพื่อจะได้นำสำนวนเข้าสู่คณะกรรมการตัดสินชี้ขาดผิดหรือถูกตั้งใจหรือละเว้นเพื่อที่จะได้ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของชาวบ้านต่างตกใจกลัวว่าจะมีความผิดเพระแท้ที่จริงก็ไปทำงานในโครงการ9101 ของบ้านหนองหนูหมู่ 10 ต.ฆะมังเพียงแค่คนละ 3-4 วัน แต่ได้รับเงินเต็มจำนวน 15 วัน ซึ่งถือเป็นลาภมิควรได้เป็นความผิดทางแพ่ง โดยเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา จึงได้ยกขบวนกันมาให้ศูนย์ดำรงธรรมลงบันทึกเจตนาสุจริตว่าพร้อมจะคืนเงินค่าแรง ล่าสุดโครงการ 9101 ก่อนจะปิดตัวลงเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2560 ชาวบ้านก็ไปถอนเงินออกจากบัญชี ธกส.นำไปคืนผู้นำชุมชนแล้ว ซึ่งแท้ที่จริงมีผู้ที่ทำงานครบ 15 วัน แทบจะหาตัวไม่เจอ
สำหรับแนวทางสอบสวน ซึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ผู้นำชุมชนบางคนไปเรียกเก็บสมุดเงินฝากของชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการแล้วเวลาชาวบ้านไปถอนเงินก็ไปยึดเอาเงินบางส่วนมาถือครองไว้ เข้าข่ายวิ่งราวทรัพย์ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ , ไปเอาบุคคลที่ขาดคุณสมบัติเข้ามาร่วมทำงานและขอให้บุคคลที่มีคุณสมบัติเฉลี่ยเงินไปให้ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ , หรือเรียกรับผลประโยชน์กินหัวคิวค่าแรงชาวบ้าน นั้น ก็คงจะต้องไล่เรียงอำนาจ หน้าที่ กฎระเบียบ รวมถึงเจตนาถ้าพบว่ามีเจตนาก็คงหนีไม่พ้น ม.157 และความผิดทางวินัยรวมถึงทางแพ่ง ที่ต้องดูว่ากรรมการสอบสวนเรื่องนี้จะเป็นกลางและเอาจริงอย่างที่คุยโวไว้หรือไม่ แต่ถ้าผู้นำชุมชนที่ถูกกล่าวหาทำด้วยเจตนาสุจริตก็รอดตัวไป ซึ่งเร็วๆนี้คงมีคำตอบสู่สังคม ว่า จังหวัดพิจิตรเป็นจังหวัดคุณธรรมที่เป็นรูปธรรมจริงหรือไม่?

สิทธิพจน์ พิจิตร