ปทุมธานี รพ.ปทุมพร้อมสหวิชาชีพหลายหน่วยงานซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ (ชมคลิปคลิกเลย)

ปทุมธานี รพ.ปทุมพร้อมสหวิชาชีพหลายหน่วยงานซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2560 เวลา 11:30 น. นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นพ.ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ก่อนห้วงเวลางานพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณใกล้แยกเทคโนปทุมธานี บนถนน347 สายเทคโนปทุมธานี–บางปะหัน ฝั่งขาเข้า ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

โดยการซ้อมแผนรับรองอุบัติเหตุหมู่ในครั้งนี้ เป็นการจำลองสถานการณ์รถผู้โดยสารถูกคนร้ายปาระเบิดจนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 17 ราย พร้อมกันนี้ยังมีไฟไหม้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งการซ้อมแผนรับรองอุบัติเหตุหมู่เนื่องด้วยจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางขนส่งที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง มีภาคต่างๆของประเทศ ที่ผ่านมาพบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนเป็นจำนวนมากซึ่งบางครั้งเป็นอุบัติภัยร้ายแรงก่อให้เกิดการสูญเสียและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีผู้ฝึกสอนประกอบไปด้วย เทศบาลนครรังสิต เทศบาลตำบลหลักหก เทศบาลตำบลบางเตย เทศบาลตำบลบางพูน เทศบาลตําบลบางพูด เทศบาลตำบลคูขวาง องค์กรบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง เทศบาลตำบลบ้านกลาง เทศบาลตำบลบางกะดี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส โรงพยาบาลสามโคก สถานีตำรวจภูธรตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี องค์กรบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิปอเต็กตึ้ง

ด้าน นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี การฝึกซ้อมแผนเพื่อรองรับอุบัติเหตุหมู่จังหวัดปทุมธานีมีวัตถุประสงค์ เพื่อวางแผนร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการประสานส่งต่อในการรักษาผู้บาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและปลอดภัยและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับสหวิชาชีพสร้างเครือข่ายในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้เป็นการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องมีการเตรียมความพร้อมมีแผนรับรองอุบัติเหตุหมู่การฝึกซ้อมแผนอย่างจริงจังและช่วยลดอันตรายที่เกิดขึ้นกับประชาชนทรัพย์สินสิ่งแวดล้อมและบุคลากรที่เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ได้รับอันตรายมีโอกาสหายโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนหากได้รับการช่วยเหลือจากบุคลากรที่มีความรู้และทักษะในการช่วยเหลือที่จุดเกิดเหตุระหว่างนำส่งและในห้องฉุกเฉินในการนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพก่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน