<<<เชียงราย>>>
เกรงผู้เฒ่าง่อม”เทศบาลนครเชียงราย”เปิดมหา’ลัยวัยที่ 3 ชวนผู้สูงวัยเข้าเรียน ร่วมพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
เวลา 9.30 น. วันนี้ (20 เม.ย.60) ณ ที่ทำการ มหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6 และเจ้าวาสวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย ได้เมตตาทำพิธีเจิมป้ายมหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ” ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำลัด ภายในเขตเทศบาลนครเชียงราย
ภายหลังจากที่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานในพิธี”เปิดป้ายดังกล่าว และกล่าวเปิดโครงการวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เทศบาลนครเชียงราย ประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อเตรียมความพร้อมสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ เสริมทักษะพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ ให้มีความเข้มแข็ง รู้สึกถึงคุณค่ามีศักดิ์ศรี มีกำลังใจในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข ร่วมพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย ผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) รวมถึงผู้แทนจาก คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ศูนย์สนับสนุนการเรียนรู้องค์กรสุขภาวะ ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเครือข่ายองค์กรชุมชนเขตเทศบาลนครเชียงราย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ผู้สูงวัย พี่น้องประชาชนภายในเขตเทศบาลนครเชียงรายร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายวันชัย จงสุทธานามณี กล่าวว่า “โครงการดังกล่าว สืบเนื่องจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ในโครงการเสริมสร้างความยั่งยืนของการพัฒนาเมืองในอนาคต (The Project for Promoting Sustainability in Futrue Cities of Thailand : TFCP) ให้ศึกษาและจัดทำแนวทางการพัฒนาเมืองในอนาคตของประเทศไทยให้มีความสมดุลและยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ท้องถิ่นเป็นแกนหลักในการพัฒนาเมืองร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเทศบาลนครเชียงราย เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 เมืองของประเทศไทยในการดำเนินโครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้สูงอายุในท้องถิ่น” โดยรัฐบาลได้กำหนดให้มีการเตรียมความพร้อมของสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ด้วยเหตุที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ในขณะเดียวกันมีผู้สูงอายุที่ต้องอยู่อาศัยเพียงลำพังไม่มีลูกหลานดูแลเอาใจใส่ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุอยู่ในภาวะซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องให้ความสำคัญ โดยที่ปัจจุบันประเทศไทยมีการคาดการณ์ไว้ว่าภายในอีกไม่เกิน 10 ปี ประเทศไทยจะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 ตามสถานการณ์นี้ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว เทศบาลนครเชียงราย ได้ให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงทั้งกลุ่มติดบ้านและกลุ่มติดเตียง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุที่ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีอาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจจนต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการบูรณาการร่วมกับ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดตั้ง “มหาวิทยาลัยวัยที่สามนครเชียงราย” เพื่อการดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบองค์รวม
นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดตั้ง มหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในเขตเทศบาลนครเชียงรายตามแนวทางการพัฒนาของรัฐบาลให้ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยมีการจัดทำหลักสูตรเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นการพัฒนาทักษะและการศึกษาตามอัธยาศัยของผู้สูงอายุที่ถนัดและสนใจ ซึ่งการร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ จะส่งผลให้ผู้สูงอายุทุกคนมีความสุข มีคุณภาพชีวิต มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญเป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้ร่วมกันให้กับคนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไปอย่างยั่งยืน”
สำหรับกิจกรรมภายในงาน นอกจากได้มีการแสดงรำฟ้อนเล็บแบบล้านนาของผู้สูงอายุ กิจกรรมตีกลองสะบัดชัยของนักเรียนในเขตเทศบาลนครเชียงราย การเปิดห้องศูนย์การเรียนรู้ ด้านต่างๆ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายแล้ว ยังได้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สูงอายุดีเด่น และผู้สูงอายุที่มีจิตอาสายอดเยี่ยมของเทศบาลนครเชียงราย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รณรงค์ให้สังคมตระหนักเห็นคุณค่าและเชิดชูผู้สูงอายุ ที่ทำความดีจนเป็นที่ยอมรับของสังคม อีกด้วย
//////////////////////////////
เพทาย บ้านชี รายงาน
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก หนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์ http://www.siamfocustimenews.com